โดย Elizabeth Millar - 22 สิงหาคม 2560
ภายใต้การปกครองใหม่ในสหรัฐอเมริกาที่เริ่มต้นขึ้นก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงมากมายด้านนโยบายการค้า อาทิเช่น การเจรจาเขตการค้าเสรีในอเมริกาเหนือ (NAFTA) ของประธานาธิบดีทรัมป์ และการถอนตัวออกจากข้อตกลงความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจในภูมิภาคแปซิฟิก (TPP) ความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ย่อมส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในห่วงโซอุปทานไปทั่วโลก ที่จะต้องเฝ้าระมัดระวังอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอัตราภาษีศุลกากรและเงื่อนไขการค้าต่างๆ ว่าจะได้รับผลกระทบอย่างไร
เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง...ย่อมคือความเสี่ยง
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของนโยบายการค้าที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา กำลังจะส่งผลอย่างไรต่อเรา? ล่าสุดบทความด้านอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่ชื่อ ความเสี่ยงใหม่ในโลกห่วงโซ่อุปทาน เขียนโดย ลุค แจนเซ่นส์ ผู้อำนวยการอาวุโส แผนกออกแบบและวิจัย โซลูชันซัพพลายเชนและแมนูเฟคเจอริ่งที่ QAD ให้ข้อเสนอแนะว่า ขึ้นอยู่กับทาง NAFTA จะจัดการอย่างไรเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกากับแคนาคา เพราะมีความเป็นไปได้ที่จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรง
“การค้าบริการภายในระหว่างแคนาดากับสหรัฐอเมริกา (ทั้งส่งออกและนำเข้า) มีมูลค่าโดยรวมประมาณ 83.7 พันล้านดอลลาร์ในปี ค.ศ. 2016 การส่งออกงานบริการมีมูลค่าถึง 54.2 พันล้านดอลลาร์ บริการนำเข้ามีมูลค่า 26.9 พันล้านดอลลาร์ โดยผลกระทบจากข้อกำหนดใหม่ภายใต้เงื่อนไขของ NAFTA อาจถือเป็นฝันร้ายสำหรับการขนส่งฟรีและการทำกำไรในสายซัพพลายเชนระหว่างแคนาดาและสหรัฐอเมริกา” ลุค กล่าวไว้ในบทความของเขา และยังไม่รวมถึงอีกว่าการส่งออกสินค้าและบริการของสหรัฐอเมริกาไปแคนาดานั้นก่อให้เกิดการจ้างงานอีกว่า 1.6 ล้านตำแหน่งในปี ค.ศ. 2016 ตามบันทึกของกระทรวงพาณิชย์ คำถามคือ อะไรคือสิ่งที่ผู้บริหารซัพพลายเชนจะทำได้เพื่อต่อกรรับความเปลี่ยนแปลงและผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นใหม่ๆ เหล่านี้
ลดความเสี่ยงและเตรียมพร้อมรับมือ สำหรับซัพพลายเชนทั่วโลก
สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง นั้นคือ คุณไม่มีทางรู้ว่าอนาคตข้างหน้าจะมีอะไรรออยู่ แต่คุณสามารถเตรียมพร้อมรับมือและคาดการณ์ถึงผลที่อาจเกิดขึ้นและพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อรับมือเตรียมพร้อม ด้วยความหลากหลายของเครื่องมือซอฟต์แวร์เพื่อการวางแผนด้านซัพพลายเชน จะช่วยให้คุณพร้อมรับมือกับความเสี่ยงในอนาคตได้ ด้วยการคาดคะเนที่ถูกต้องแม่นยำยิ่งขึ้น การเพิ่มประสิทธิภาพให้เครือข่ายสามารถช่วยให้คุณติดตามและเตรียมพร้อมได้อย่างเหมาะสมกับสิ่งที่ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ดังเช่นนี้ ลุค กล่าวไว้ในบทความของเขา “ถ้าความเสี่ยงต่างๆ มิได้วางแผนไว้ เมื่อเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้น การเข้าถึงโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจหรือการดำเนินงานในปัจจุบันย่อมอาจตกอยู่ในอันตราย” อ่านบทความของเขาฉบับเต็มได้ที่ ความเสี่ยงใหม่ในโลกห่วงโซ่อุปทาน.