เศรษฐกิจยุคดิจิตอลเติบโอย่างต่อเนื่องกระจายตัวไปทั่วโลก ก่อให้เกิดความท้าทายใหม่ๆสำหรับผู้ผลิต ในฐานะผู้บริโภคยากที่จะเชื่อว่าอะไรๆก็สามารถทำสำเร็จเสร็จได้ผ่านอุปกรณ์ Smartphones ของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการจัดตารางเดินทาง การจองตั๋วเครื่องบิน การซื้อสินค้าหรือแม้กระทั้งการดูภาพยนตร์ ด้วยความสามารถของเทคโนโลยีใหม่ๆ มากมายอย่าง Social Media และอุปกรณ์เคลื่อนที่ทรงพลัง จึงทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทุกเวลาตามต้องการ และเริ่มคาดหวังให้บริษัทผู้ผลิตหันมาสร้างช่องทางที่พิเศษเฉพาะตน ปรับเปลี่ยนการเข้าถึงและเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์ต่างๆ ด้วยดิจิตอล ผลก็คือ ก่อเกิดแรงกดดันแก่ผู้ผลิตในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ การปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ให้มีความเป็นดิจิตอลมากขึ้น เพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์และบริการด้วยเทคโนโลยีดิจิตอล ที่จะช่วยรักษาอัตราการเติบโตของรายได้และลดต้นทุนให้ต่ำที่สุด
หากคุณรู้สึกถูกกดดันและต้องการใครสักคนเพื่อช่วยคุณแล้ว ลองดูตัวอย่างจาก Ricoh Australia บริษัทประเภทนี้สามารถช่วยให้คำแนะนำอันเป็นประโยชน์แก่คุณ เพื่อลดแรงกดดันและพร้อมมอบบริการที่ช่วยปรับปรุงธุรกิจของคุณได้
คุณพร้อมรับมือกับ Digital Transformation แล้วหรือยัง
มีหนังสือ บทความและแหล่งข้อมูลมากมายที่จะทำให้คุณเข้าใจความหมายของเทคโนโลยีดิจิตอลยุคใหม่ที่กำลังเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจโลก ในเนื้อหาเหล่านั้นมีหลายสิ่งที่ต้องคำนึงถึงโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าทั้งหมดนี้เป็นเรื่องใหม่สำหรับคุณ ในกรณีนี้อยากให้คุณลองดูตัวอย่างจาก Salesforce.com ในด้านการเปลี่ยนแปลงเชิงดิจิตอลจะช่วยให้คุณเข้าใจประโยชน์ของการเปลี่ยนแปลงเชิงดิจิตอลที่มีต่อธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีคำจำกัดความและนิยามเกี่ยวกับ “อุตสาหกรรม 4.0” “ยุคที่สองของเครื่องจักรกล” “การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่” “โรงงานอัจฉริยะ” และอื่นๆ อีกมากมาย ข้อมูลทั้งหมดนี้และการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วคือมูลเหตุที่จะทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายของผู้ผลิตในขณะที่พวกเขาต้องตัดสินใจในหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการสร้างสัมพันธ์กับลูกค้าให้แนบแน่นยิ่งขึ้น เพื่อเร่งพัฒนานวัตกรรมการผลิตสินค้า การเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในกระบวนการผลิตและการเพิ่มส่วนแบ่งผลกำไร แต่อย่างน้อยข่าวดีคือ มีผู้ผลิตหลายรายได้ใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อก้าวสู่ยุคดิจิตอล แต่พวกเขายังไม่เข้าใจมันอย่างแท้จริงเลย ดังนั้นอะไรที่ผู้ผลิตควรจะให้ความสำคัญและใส่ใจอย่างแท้จริง หากแผนกลยุทธ์ด้านดิจิตอลยังไม่เรียบร้อย เพื่อให้ผู้ผลิตสามารถเดินหน้าต่อไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงดิจิตอลได้อย่างประสบความสำเร็จ และนี่คือ 3 ด้านสำคัญที่ผู้ผลิตควรต้องใส่ใจ:
1. เพิ่มความถูกต้องในการวางแผนความต้องการ มีหลายสถานการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อความต้องการผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็น ฤดูกาล รูปแบบพฤติกรรมการซื้อของลูกค้า สภาพอากาศที่ยากจะคาดเดา และนวัตกรรมใหม่ๆ ของผลิตภัณฑ์คู่แข่ง ในอดีต บริษัทผู้ผลิตมากมายต่างสร้างกระบวนการคาดคะเนความต้องการด้วยข้อมูลรูปแบบอุปสงค์ความต้องการที่อาจล่าช้าเกินไป แต่ในยุคดิจิตอล มีความจำเป็นอย่างมากที่บริษัทต้องสามารถเข้าถึงข้อมูลลูกค้าและพฤติกรรมผู้บริโภคได้แบบเรียลไทม์ เพื่อสร้างรูปแบบความต้องการได้อย่างชัดเจน และปรับแต่ง Supply Chain ของตนให้ตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ด้วยเทคโนโลยีที่มีในปัจจุบันและความรวดเร็วในการเข้าถึงข้อมูลและการติดตามตรวจสอบความต้องการที่แม่นยำยิ่งขึ้น จึงช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนได้เหมาะสม ตรงเวลา เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นและลดปริมาณสินค้าในคลัง
2. เพิ่มประสิทธิภาพของ Supply Chain ทั่วโลก
การนำเอามุมมองที่ครบถ้วนของ Supply Chain ทั่วโลก ตั้งแต่ Suppliers ด้านวัตถุดิบ พันธมิตรด้านขนส่ง ผู้ค้าปลีกและอื่นๆ จะช่วยให้ผู้ผลิตสามารถจัดการกับ Supply Chain ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสูด จากข้อมูลของ AT Kearney ระบุว่า “ยิ่งผู้จัดการ Supply Chain สามารถมองเห็นได้อย่างทะลุปรุโปรงมากเท่าไร ย่อมช่วยให้เกิดการตัดสินใจที่ดีขึ้นมากเท่านั้นซึ่งเป็นประโยชน์หลักเมื่อก้าวสู่ยุคดิจิตอล” การเข้าถึงจุดที่ทำให้ Supply Chain หยุดชะงักได้รวดเร็วมากเท่าใด จะเป็นตัวกำหนดความพร้อมของผลิตภัณฑ์ว่าเมื่อใดและที่ไหนที่ลูกค้าต้องการ นอกจากนี้ ความสัมพันธ์กับลูกค้าสามารถเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้มากขึ้นได้ด้วยการจัดเก็บข้อมูลเชิงดิจิตอล และการแบ่งปันข้อมูล Supply Chain อย่างความพร้อมของสินค้าในคลัง หรือสถานการณ์ขนส่ง เป็นต้น ด้วยความสามารถที่มากขึ้น คู่ค้าในสาย Supply Chain จะได้รับข้อมูลมากขึ้น สามารถประสานงานและวิเคราะห์ผลลัพธ์ได้ในต้นทุนที่ต่ำลง และเพิ่มความพร้อมของผลิตภัณฑ์ให้มากยิ่งขึ้น
3. พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่พร้อมเชื่อมต่อยุคดิจิตอล ผู้บริหารในอุตสาหกรรมการผลิตควรตระหนักว่าการเชื่อมต่อโลกดิจิตอลกับผลิตภัณฑ์จะส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์และบริหารที่ขายตลอดจนการปรับปรุงการดำเนินงาน โดยก้าวแรกที่ควรพิจารณาคือ การใช้อุปกรณ์ IoT เพื่อรับข้อมูลเชิงลึกของเครื่องจักรอุปกรณ์ต่างๆ มาใช้เพื่อก่อให้เกิดการใช้ประโยชน์สูงสุด หลังจากนั้นผู้ผลิตจึงค่อยใส่ใจการเชื่อมต่อโลกดิจิตอลเข้ากับผลิตภัณฑ์ปลายทาง เพื่อให้บริการตามที่ลูกค้าคาดหวัง รวมถึงความสามารถในการประเมินการซ่อมบำรุง ผลลัพธ์ที่ได้ขององค์กรที่นำการเปลี่ยนแปลงเชิงดิจิตอลนี้สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลใหม่ๆ เพื่อขยายฐานข้อมูลเชิงลึก และสร้างกระบวนการตัดสินใจแบบเรียลไทม์ เพื่อสร้างมูลค่าใหม่ๆ ให้กับการดำเนินงานของลูกค้า
ถึงตรงนี้องค์กรของคุณเปลี่ยนแปลงเชิงดิจิตอลไปถึงไหนแล้ว บางทีอาจจะอยู่ในช่วงพิจารณาหรือกำลังเริ่มต้นใช้งานระบบ ERP ที่ตอบสนองอย่างรวดเร็วหรือกำลังติดตั้งระบบ Enterprise อื่นๆ หรืออาจกำลังพิจารณาถึงเทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง machine learning, blockchain, data lakes หรือการริเริ่มอื่นๆ ไม่ว่าอย่างไรก็ตามถึงตอนนี้คือเวลาของการพิจารณานวัตกรรมด้านดิจิตอลสำหรับการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการผลิต การเพิ่มประสิทธิภาพให้กับสาย Supply Chain ระดับโลก เพื่อให้กลายเป็นองค์กรที่มีประสิทธิภาพ
QAD พร้อมที่จะให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยีและช่วยให้คุณลงทุนด้านเทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ ยินดีให้คำปรึกษาโดยที่ปรึกษามืออาชีพ
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ: คุณ ฐายิกา กงไกรลาศ (Business Development Representative) โทร : 02-202-9375 อีเมล์ : t7k@qad.com